ทุกวันนี้ ผู้ประกอบการหลายท่านมักเลือกผู้ให้บริการงานบัญชีที่ราคาถูกที่สุดโดยไม่ได้พิจารณาปัจจัยอื่นๆ ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาตามมา เช่น ผู้ทำบัญชีทิ้งงาน ไม่ยื่นงบให้ตามกำหนด หรือแม้แต่ติดต่อไม่ได้ ทำให้ธุรกิจของคุณต้องเผชิญกับความเสียหายทั้งในด้านการเงินและกฎหมาย
ผลกระทบจากการเลือกผู้ให้บริการงานบัญชีที่ไม่ดี
ความเสียหายทางการเงิน: การไม่ยื่นงบภาษีอาจทำให้ต้องเสียค่าปรับ ดอกเบี้ย และอาจถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจ
ปัญหาทางกฎหมาย: การบันทึกบัญชีที่ไม่ถูกต้อง อาจนำไปสู่การถูกตรวจสอบโดยหน่วยงานภาษี และอาจต้องรับผิดชอบทางกฎหมาย
ความเสียหายต่อภาพลักษณ์ธุรกิจ: การไม่สามารถนำเสนอข้อมูลทางการเงินที่ถูกต้องและทันสมัย อาจส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของธุรกิจ
หากต้องการเปลี่ยนสำนักงานบัญชี ต้องทำอย่างไรบ้าง
1. ค้นหาสำนักงานบัญชีใหม่ที่เหมาะสม
ตรวจสอบประสบการณ์ เลือกผู้ให้บริการที่มีประสบการณ์และประวัติการทำงานที่น่าเชื่อถือ การมีประสบการณ์มากพอจะช่วยให้มั่นใจได้ว่างานบัญชีของคุณจะได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง
สถานที่ตั้งชัดเจน สำนักงานบัญชีที่น่าเชื่อถือควรมีสถานที่ตั้งที่มั่นคงและสามารถเข้าถึงได้จริง หากเกิดปัญหาหรือการทิ้งงาน คุณจะสามารถติดต่อหรือไปยังสำนักงานได้อย่างสะดวก
สอบถามถึงบริการ บริการที่ได้รับครอบคลุมความต้องการของธุรกิจคุณหรือไม่
ราคาเหมาะสม อย่าเลือกเพียงราคาที่ถูกที่สุด แต่พิจารณาถึงคุณภาพของบริการด้วย
ช่องทางการติดต่อหลายช่องทาง ควรเลือกผู้ให้บริการที่มีช่องทางการติดต่อที่หลากหลาย และสามารถติดต่อได้ตลอดเวลา เช่น โทรศัพท์ อีเมล หรือแอปพลิเคชันออนไลน์ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าคุณจะได้รับการตอบสนองเมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น
2. แจ้งสำนักงานบัญชีเก่า
แจ้งล่วงหน้า แจ้งให้สำนักงานบัญชีเก่าทราบล่วงหน้า เพื่อให้มีเวลาเตรียมเอกสารและข้อมูลต่างๆ
ระบุวันสิ้นสุดสัญญา: กำหนดวันสิ้นสุดการให้บริการที่ชัดเจน
ขอเอกสารสำคัญคืน: ขอเอกสารที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณคืนทั้งหมด เช่น งบการเงิน, บัญชีแยกประเภท, ใบเสร็จรับเงิน, ใบกำกับภาษี เป็นต้น
3. รวบรวมเอกสารสำคัญ
เอกสารทางการเงิน งบการเงิน, บัญชีแยกประเภท, ใบเสร็จรับเงิน, ใบกำกับภาษี, สลิปเงินเดือน
เอกสารทางภาษี แบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคล, แบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่ม
เอกสารอื่นๆ สัญญาเช่า, สัญญาจ้าง, ใบอนุญาตประกอบธุรกิจ
4. ส่งมอบข้อมูลให้สำนักงานบัญชีใหม่
จัดทำเอกสารให้ครบถ้วน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเอกสารทุกฉบับมีความถูกต้องและครบถ้วน
อธิบายรายละเอียด อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับธุรกิจของคุณให้สำนักงานบัญชีใหม่เข้าใจ
ติดตามความคืบหน้า ติดตามความคืบหน้าในการทำงานของสำนักงานบัญชีใหม่เป็นระยะ
5. เปลี่ยนแปลงข้อมูลติดต่อ
แจ้งหน่วยงานภาษี แจ้งการเปลี่ยนแปลงข้อมูลติดต่อกับกรมสรรพากร
แจ้งธนาคาร แจ้งการเปลี่ยนแปลงข้อมูลติดต่อกับธนาคาร
แจ้งหน่วยงานอื่นๆ แจ้งการเปลี่ยนแปลงข้อมูลติดต่อกับหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
การเปลี่ยนสำนักงานบัญชีอาจดูเป็นเรื่องยุ่งยาก การวางแผนล่วงหน้าจะช่วยให้กระบวนการ เปลี่ยนสำนักงานบัญชี เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของคุณ
หากคุณกำลังมองหาผู้ให้บริการงานบัญชีใหม่ที่เชื่อถือได้ iACC Professional พร้อมให้บริการงานบัญชีครบวงจร ช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างมั่นคง