top of page

ยื่นงบการเงิน: คู่มือฉบับเข้าใจง่ายสำหรับผู้ประกอบการไทย

  • รูปภาพนักเขียน: Thanuwat Khumkainam
    Thanuwat Khumkainam
  • 4 เม.ย.
  • ยาว 1 นาที

อัปเดตเมื่อ 1 วันที่ผ่านมา


ยื่นงบการเงิน: คู่มือฉบับเข้าใจง่ายสำหรับผู้ประกอบการไทย
ยื่นงบการเงิน: คู่มือฉบับเข้าใจง่ายสำหรับผู้ประกอบการไทย

ยื่นงบการเงิน คืออะไร?

การยื่นงบการเงิน หมายถึง การรายงานผลการดำเนินงานและสถานะทางการเงินของบริษัทให้หน่วยงานภาครัฐรับทราบ เปรียบเสมือนการรายงานสุขภาพประจำปีของธุรกิจ ตามที่กฎหมายพระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ. 2543 ได้กำหนดไว้ ผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีของบริษัทหรือกิจการต้องนำส่งงบการเงินให้แก่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเป็นประจำทุกปี ไม่ว่าบริษัทจะมีผลกำไร ขาดทุน หรือแม้กระทั่งยังไม่มีการดำเนินธุรกิจก็ตาม การเน้นย้ำในประเด็นนี้สำคัญมาก เนื่องจากผู้ประกอบการใหม่หรือบริษัทที่อาจยังไม่ได้มีการเคลื่อนไหวทางธุรกิจ อาจคิดว่ายังไม่จำเป็นต้องยื่นงบการเงิน ซึ่งเป็นความเข้าใจผิดและอาจนำไปสู่ปัญหาในอนาคตได้


ในการทำธุรกิจให้เติบโตและประสบความสำเร็จนั้น มีรายละเอียดมากมายที่เราต้องใส่ใจดูแล หนึ่งในเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งและไม่ควรมองข้ามเลยก็คือ การยื่นงบการเงินถึงแม้ว่าเรื่องของบัญชีและการเงินอาจจะดูเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและน่าปวดหัวสำหรับผู้ที่ไม่ได้มีพื้นฐานทางด้านนี้โดยตรง แต่การยื่นงบการเงินนั้นถือเป็นหน้าที่สำคัญตามกฎหมายที่ผู้ประกอบการทุกรายต้องปฏิบัติ และกระบวนการนี้ก็ไม่ได้ยากอย่างที่หลายท่านคิด บทความนี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการทุกท่านทราบถึงความหมาย ความสำคัญ กำหนดเวลา ช่องทางการยื่น รวมถึงข้อควรระวังต่างๆ เกี่ยวกับการยื่นงบการเงินในประเทศไทย เพื่อให้ท่านสามารถนำไปปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง


ทำไมการยื่นงบการเงินถึงสำคัญ?

การยื่นงบการเงินเป็นกิจกรรมที่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจในหลายๆ ด้าน ไม่เพียงแต่เป็นหน้าที่ตามกฎหมายเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าใจสภาพธุรกิจของตนเองได้ดียิ่งขึ้น งบการเงินจะช่วยให้ทราบว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมา ธุรกิจมีกำไรหรือขาดทุนอย่างแท้จริง ข้อมูลเหล่านี้มีความสำคัญต่อการวางแผนและการตัดสินใจที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ เช่น การพิจารณาขยายกิจการ การปรับปรุงการบริหารจัดการ หรือการประเมินความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น นอกจากนี้ งบการเงินยังเปรียบเสมือนการตรวจสุขภาพประจำปีของบริษัท ช่วยให้เห็นถึงฐานะทางการเงิน ความแข็งแกร่ง และแนวโน้มของธุรกิจในอนาคต ข้อมูลเหล่านี้ไม่เพียงแต่มีความสำคัญต่อตัวผู้ประกอบการเองเท่านั้น แต่ยังมีความสำคัญต่อผู้มีส่วนได้เสียอื่นๆ ของกิจการด้วย เช่น ผู้ถือหุ้นที่จะใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการประเมินประสิทธิภาพในการบริหารงานของผู้บริหาร หรือผู้ให้กู้ที่จะพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้ของบริษัท รวมถึงนักลงทุนที่อาจสนใจลงทุนในธุรกิจของเราที่สำคัญ 

การยื่นงบการเงินยังเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายที่กำหนดไว้ ทำให้หน่วยงานราชการ เช่น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และกรมสรรพากร ทราบถึงสถานะทางการเงินของกิจการ ซึ่งเป็นข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการกำกับดูแลและพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม ดังนั้น การให้ความสำคัญกับการจัดทำและยื่นงบการเงินอย่างถูกต้องและตรงตามเวลาจึงเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการไม่ควรมองข้าม

 

ควรเริ่มยื่นงบการเงินเมื่อไหร่?

สำหรับบริษัทที่เพิ่งจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ สิ่งสำคัญที่ต้องทราบคือการเริ่มดำเนินการเกี่ยวกับการยื่นงบการเงินตั้งแต่รอบปีบัญชีแรก การกำหนดวันปิดบัญชีแรกสามารถเลือกได้โดยมีระยะเวลาไม่เกิน 12 เดือนนับจากวันที่จดทะเบียน อย่างไรก็ตาม รอบบัญชีถัดไปจะต้องมีระยะเวลา 12 เดือนเสมอ หลายบริษัทมักเลือกปิดบัญชีให้ตรงกับสิ้นปีปฏิทิน คือวันที่ 31 ธันวาคมของทุกปี เพื่อความสะดวกในการจัดการเอกสารทางภาษี


ตามกฎหมายบริษัทจำกัดต้องนำงบการเงินที่ได้รับการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีรับอนุญาตเสนอเพื่ออนุมัติต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นภายใน 4 เดือนนับจากวันปิดรอบปีบัญชี และนำส่งงบการเงินต่อนายทะเบียนภายใน 1 เดือนนับจากวันที่ได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น หากบริษัทไม่ได้จัดประชุมเพื่ออนุมัติงบการเงินภายในระยะเวลาที่กำหนด อาจมีค่าปรับตามกฎหมาย กำหนดเวลาที่สำคัญในการยื่นงบการเงินประจำปี (สำหรับบริษัทที่มีรอบปีบัญชีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม) มีขั้นตอนดังนี้

ขั้นตอน

กำหนดเวลา

จัดประชุมผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติงบการเงิน

ภายในวันที่ 30 เมษายนของปีถัดไป

(4 เดือนหลังสิ้นรอบบัญชี)

ยื่นแบบ บอจ.5 (บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น)

ภายใน 14 วันหลังการประชุม

ยื่นงบการเงินต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า

ภายในวันที่ 31 พฤษภาคมของปีถัดไป

(1 เดือนหลังจากได้รับการอนุมัติจากที่ประชุม แต่รวมทั้งหมดไม่เกิน 5 เดือนหลังสิ้นรอบบัญชี)

ยื่นแบบ ภ.ง.ด.50

(แบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคล)

ภายใน 150 วันหลังวันสิ้นรอบบัญชี

ในกรณีที่บริษัทต้องการเปลี่ยนรอบระยะเวลาบัญชี สามารถดำเนินการแจ้งเรื่องไปยังกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและกรมสรรพากรเพื่อขออนุมัติการเปลี่ยนแปลง


เปิดบริษัทไม่เคยยื่นงบการเงินมีผลอย่างไรบ้าง?

การละเลยไม่ดำเนินการยื่นงบการเงินสำหรับบริษัทที่เปิดใหม่ อาจนำไปสู่ผลกระทบทางกฎหมายที่สำคัญ ในขั้นต้น บริษัทหรือกิจการที่ไม่เคยยื่นงบการเงินจะได้รับจดหมายแจ้งเตือนจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า โดยมีเนื้อหาสำคัญเกี่ยวกับการให้นำส่งเอกสารหรือหลักฐานงบการเงิน หากบริษัทได้รับจดหมายดังกล่าวแล้ว แต่ยังคงเพิกเฉยไม่ดำเนินการแก้ไข ในขั้นตอนถัดไป กรมพัฒนาธุรกิจการค้าอาจดำเนินการส่งเรื่องไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อออกหมายเรียกให้กรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทไปพบ เพื่อเสียค่าปรับและดำเนินการยื่นงบการเงินในภายหลัง


นอกจากผลกระทบทางกฎหมายในเบื้องต้นแล้ว การไม่ยื่นงบการเงินยังอาจนำไปสู่ผลเสียอื่นๆ อีกหลายประการ เช่น การถูกปรับและอาจมีโทษทางอาญาตามมา หากบริษัทไม่ยื่นงบการเงินติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน (เช่น 3 ปี) มีความเสี่ยงสูงที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะดำเนินการพักทะเบียนบริษัท หรือร้ายแรงที่สุดคือการเพิกถอนทะเบียนบริษัท ทำให้บริษัทนั้นสิ้นสภาพนิติบุคคลและไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย


ยิ่งไปกว่านั้น การไม่ยื่นงบการเงินยังส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของบริษัทในสายตาของลูกค้า คู่ค้า และสถาบันการเงิน ทำให้บริษัทอาจประสบปัญหาในการขอสินเชื่อจากธนาคาร หรือการเจรจาธุรกิจกับคู่ค้าต่างๆ อาจเป็นไปด้วยความยากลำบากมากขึ้น ดังนั้น การให้ความสำคัญและดำเนินการยื่นงบการเงินอย่างสม่ำเสมอ จึงเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการไม่ควรมองข้าม


ค่าปรับ ยื่นงบการเงินล่าช้า

หากบริษัทยื่นงบการเงินล่าช้า จะต้องชำระค่าปรับทั้งจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและกรมสรรพากร โดยอัตราค่าปรับจะแตกต่างกันตามระยะเวลาที่ยื่นล่าช้าและประเภทของนิติบุคคล

ค่าปรับจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าแบ่งเป็น 2 กรณีหลัก

  1. กรณีประชุมอนุมัติงบไม่ทันภายใน 4 เดือนหลังปิดรอบปีบัญชี บริษัทและกรรมการผู้มีอำนาจเสียค่าปรับท่านละ 6,000 บาท

  2. กรณีประชุมอนุมัติงบทัน แต่ยื่นงบล่าช้าเกิน 1 เดือนหลังได้รับอนุมัติ

    • ล่าช้าไม่เกิน 2 เดือน ผู้ทำบัญชีและกรรมการปรับท่านละ 1,000 บาท รวม 2,000 บาทสำหรับบริษัทจำกัด

    • ล่าช้าเกิน 2 เดือนแต่ไม่เกิน 4 เดือน ผู้ทำบัญชีและกรรมการปรับท่านละ 4,000 บาท รวม 8,000 บาทสำหรับบริษัทจำกัด

    • ล่าช้าเกิน 4 เดือนหรือไม่ยื่นเลย ผู้ทำบัญชีและกรรมการปรับท่านละ 6,000 บาท รวม 12,000 บาทสำหรับบริษัทจำกัด


นอกจากค่าปรับจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าแล้ว ยังมีค่าปรับจากกรมสรรพากรที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบ ภ.ง.ด. 50 ล่าช้า โดยทั่วไปจะมีค่าปรับในกรณียื่นแบบเกินกำหนด ซึ่งอาจสูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท และหากมีภาษีที่ต้องชำระ ก็อาจมีเงินเพิ่มในอัตรา 1.5% ต่อเดือนของยอดภาษีที่ค้างชำระ

 

เพื่อให้ผู้ประกอบการเห็นภาพรวมของค่าปรับจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ชัดเจนมากขึ้น สามารถดูสรุปได้จากตารางด้านล่างนี้

สรุปอัตราค่าปรับการยื่นงบการเงินล่าช้า (กรมพัฒนาธุรกิจการค้า)
สรุปอัตราค่าปรับการยื่นงบการเงินล่าช้า (กรมพัฒนาธุรกิจการค้า)

ยื่นงบการเงิน ได้ที่ไหน?

สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการดำเนินการยื่นงบการเงินสามารถทำได้ 2 ช่องทางหลัก

  • ช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-Filing): เป็นช่องทางที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าแนะนำให้ใช้ เนื่องจากมีความสะดวก รวดเร็ว และสามารถดำเนินการได้ตลอด 24 ชั่วโมงผ่านทางเว็บไซต์ www.dbd.go.th ในการยื่นงบการเงินผ่านระบบ DBD e-Filing ผู้ประกอบการจะต้องทำการลงทะเบียนเพื่อขอ Username และ Password ก่อน จากนั้นจึงจะสามารถเข้าสู่ระบบ ทำการกรอกข้อมูลในงบการเงิน (โดยอาจจะต้องใช้โปรแกรม DBD XBRL in Excel) และอัปโหลดไฟล์เอกสารที่เกี่ยวข้องได้


  • ช่องทางออฟไลน์: ผู้ประกอบการสามารถนำเอกสารงบการเงินไปยื่นด้วยตนเองได้ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (ส่วนกลาง) หรือสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าเขต 1-6 ในกรุงเทพมหานคร และสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ อย่างไรก็ตาม สำหรับการยื่นงบการเงินด้วยวิธีนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้าอาจกำหนดให้ต้องนำส่งข้อมูลผ่านระบบ DBD e-Filing อีกครั้งภายใน 7 วัน

 

สำหรับห้างหุ้นส่วนจำกัดที่ยื่นงบการเงินที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จะสามารถอัปโหลดได้เพียงแค่งบการเงินเท่านั้น ส่วนหน้ารายงานผู้สอบบัญชีจะต้องนำไปส่งให้กับกรมสรรพากรอีกครั้ง


ยื่นงบการเงินผิดแก้ไขได้หรือไม่?

หากพบข้อผิดพลาดในงบการเงินที่ยื่นไปแล้ว สามารถแก้ไขได้โดย

  • ในกรณีของ DBD e-Filing :

    • เข้าสู่ระบบอีกครั้ง

    • ไปที่ "ดูประวัติการนำส่งและพิมพ์แบบ/เอกสาร"

    • เลือกงบการเงินที่ต้องการแก้ไข

    • แก้ไขข้อมูลและยื่นขออนุมัติใหม่

  • หากต้องส่งหนังสือชี้แจง : ส่งหนังสือชี้แจงพร้อมเอกสารประกอบ เช่น สำเนารายงานการประชุมผู้ถือหุ้น

  • การยื่นแบบออฟไลน์ : ติดต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าโดยตรงเพื่อแก้ไข


ควรตรวจสอบงบการเงินอย่างรอบคอบก่อนยื่นเพื่อลดขั้นตอนการแก้ไขที่ยุ่งยาก


การยื่นงบการเงินเป็นหน้าที่สำคัญสำหรับผู้ประกอบการในประเทศไทย เพื่อรายงานผลประกอบการและสถานะทางการเงินให้หน่วยงานรัฐทราบ นอกจากจะปฏิบัติตามกฎหมายแล้ว ยังช่วยในการบริหารจัดการและวางแผนธุรกิจด้วย การทำความเข้าใจเรื่องความหมาย ความสำคัญ กำหนดเวลา ค่าปรับ และช่องทางการยื่น จะช่วยให้ดำเนินการได้ถูกต้องและหลีกเลี่ยงปัญหาได้

การยื่นงบการเงินต้องทำทุกปี แม้ไม่มีการดำเนินงาน กำหนดเวลาจะแตกต่างกันไปตามประเภทนิติบุคคล โดยทั่วไป บริษัทจำกัดต้องนำงบการเงินเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นภายใน 4 เดือนหลังปิดรอบบัญชี และยื่นต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าภายใน 1 เดือน การยื่นล่าช้าจะมีค่าปรับทั้งจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและกรมสรรพากร สามารถยื่นได้ทั้งทางออนไลน์ผ่านระบบ DBD e-Filing และออฟไลน์ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าหรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัด หากยื่นผิดพลาดสามารถแก้ไขได้ โดยเฉพาะการยื่นผ่านระบบออนไลน์


 

หากผู้ประกอบการท่านใดไม่แน่ใจในรายละเอียดหรือขั้นตอนต่างๆ เกี่ยวกับการยื่นงบการเงินควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านบัญชีหรือติดต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติม หรือติดต่อเรา iAcc Professional พร้อมให้คำแนะนำและบริการยื่นงบการเงินประจำปี

 

ยื่นงบการเงินคืออะไร?

การยื่นงบการเงิน หมายถึง การรายงานผลการดำเนินงานและสถานะทางการเงินของบริษัทให้หน่วยงานภาครัฐรับทราบ เปรียบเสมือนการรายงานสุขภาพประจำปีของธุรกิจ ตามที่กฎหมายพระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ. 2543 ได้กำหนดไว้

ทำไมการยื่นงบการเงินถึงสำคัญ?

ควรเริ่มยื่นงบการเงินเมื่อไหร่?

เปิดบริษัทไม่เคยยื่นงบการเงินมีผลอย่างไรบ้าง?

ค่าปรับยื่นงบการเงินล่าช้า

ยื่นงบการเงินได้ที่ไหน?

ยื่นงบการเงินผิดแก้ไขได้หรือไม่?


bottom of page