top of page
รูปภาพนักเขียนThanuwat Khumkainam

กฎหมายต้องรู้สำหรับ SME ในการยื่นภาษีและงบการเงิน (การยื่นแบบ ภ.ง.ด. 50)

อัปเดตเมื่อ 24 ต.ค.

สำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ในประเทศไทย การปฏิบัติตามกฎหมายด้านภาษีและการยื่นงบการเงินถือเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรละเลย เพราะไม่เพียงแต่ช่วยให้ธุรกิจสามารถดำเนินการได้อย่างราบรื่น ยังป้องกันปัญหาทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้นจากการละเว้นหน้าที่ที่กฎหมายกำหนด เรามาดูกันว่ากฎหมายและหน้าที่หลัก ๆ ที่ธุรกิจ SME ต้องปฏิบัติตามในเรื่องภาษีและงบการเงินมีอะไรบ้าง


กฏหมายต้องรู้สำหรับ SME
กฏหมายต้องรู้สำหรับ SME

1. การยื่นแบบภาษีเงินได้นิติบุคคลประจำปี (การยื่นแบบ ภ.ง.ด. 50)

การยื่นแบบ ภ.ง.ด. 50 หรือ แบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคลประจำปี เป็นหนึ่งในหน้าที่สำคัญที่ทุกธุรกิจ SME ต้องปฏิบัติ โดยจะต้องยื่นแบบนี้ต่อกรมสรรพากรภายใน 150 วัน หลังจากสิ้นสุดรอบบัญชี ซึ่งในแบบฟอร์มนี้จะต้องแจ้งรายได้ รายจ่าย และกำไรสุทธิของธุรกิจ เพื่อประเมินภาษีที่ต้องชำระ

สิ่งที่ต้องเตรียมเพื่อการยื่นแบบ ภ.ง.ด. 50 ได้แก่

  • งบการเงินที่ได้รับการตรวจสอบโดยผู้สอบบัญชีรับอนุญาต

  • รายงานกำไรขาดทุน

  • รายงานฐานะการเงิน (งบดุล)

การยื่นแบบนี้สำคัญเพราะเกี่ยวข้องกับการจ่ายภาษีเงินได้ของธุรกิจ หากไม่ยื่นหรือยื่นล่าช้าอาจมีค่าปรับและดอกเบี้ยตามกฎหมาย


2. การยื่นงบการเงินประจำปีต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า

อีกหนึ่งภาระหน้าที่ที่ธุรกิจต้องปฏิบัติเป็นประจำคือการยื่น งบการเงินประจำปี ต่อ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) งบการเงินนี้ต้องผ่านการตรวจสอบโดยผู้สอบบัญชีรับอนุญาตและยื่นภายใน 5 เดือน หลังจากสิ้นสุดรอบบัญชี

งบการเงินประกอบด้วย:

  • งบฐานะการเงิน

  • งบกำไรขาดทุน

  • งบกระแสเงินสด

  • หมายเหตุประกอบงบการเงิน

การยื่นงบการเงินมีความสำคัญเนื่องจากเป็นการแสดงสถานะทางการเงินของธุรกิจ และเป็นข้อมูลที่ใช้ประกอบการวิเคราะห์และวางแผนทางธุรกิจ รวมถึงเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายที่กำหนดเพื่อความโปร่งใสของธุรกิจ


3. การยื่นแบบภาษีครึ่งปี (ภ.ง.ด.51)

ธุรกิจ SME ยังต้องยื่น แบบ ภ.ง.ด. 51 หรือ แบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งปี ซึ่งเป็นการยื่นแบบภาษีครึ่งปีเพื่อแจ้งรายได้และคาดการณ์กำไรในช่วงครึ่งปีแรกของธุรกิจ การยื่นแบบนี้จะต้องทำภายใน 2 เดือน หลังจากสิ้นสุดรอบครึ่งปีบัญชี


4. การยื่นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และภาษีหัก ณ ที่จ่าย

  • ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT): หากธุรกิจมีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี จะต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และยื่นแบบ ภ.พ. 30 เพื่อชำระภาษีมูลค่าเพิ่มต่อกรมสรรพากรทุกเดือนภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป

  • ภาษีหัก ณ ที่จ่าย: ทุกครั้งที่ธุรกิจจ่ายเงินให้บุคคลหรือนิติบุคคลที่ให้บริการ จะต้องหักภาษี ณ ที่จ่ายตามอัตราที่กำหนด และยื่นแบบ ภ.ง.ด. 3 (สำหรับบุคคลธรรมดา) หรือ ภ.ง.ด. 53 (สำหรับนิติบุคคล) ภายในวันที่ 7 ของเดือนถัดไป


5. การยื่นประกันสังคมรายเดือน

สำหรับธุรกิจที่มีพนักงานจำเป็นต้องยื่นแบบ สปส.1-10 เพื่อแจ้งรายละเอียดการจ่ายเงินสมทบกองทุนประกันสังคมทั้งในส่วนของนายจ้างและลูกจ้าง ทุกเดือน ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป


6. การยื่นภาษีป้าย

ธุรกิจที่มีการติดตั้งป้ายโฆษณาหรือป้ายบริษัทจะต้องยื่นและชำระภาษีป้ายทุกปี โดยยื่นแบบ ภ.ป.1 และชำระเงินภายในเดือนมีนาคมของทุกปี


การปฏิบัติตามกฎหมายด้านภาษีและการยื่นงบการเงินเป็นสิ่งที่ SME ทุกแห่งต้องให้ความสำคัญ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับหน่วยงานราชการ รวมถึงสร้างความโปร่งใสในการดำเนินธุรกิจ การปฏิบัติตามกฎหมายไม่เพียงแต่ช่วยลดความเสี่ยงทางกฎหมาย แต่ยังช่วยเสริมสร้างความน่าเชื่อถือของธุรกิจต่อคู่ค้า นักลงทุน และสถาบันการเงินด้วย
การมีนักบัญชีหรือนักกฎหมายคอยให้คำปรึกษาจะช่วยให้ธุรกิจ SME ปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายได้อย่างถูกต้องและทันเวลา

 

ดู 21 ครั้ง
bottom of page