ทำความรู้จักกับเพื่อนคู่ใจคนมีรายได้: ใบ 50 ทวิ คืออะไร?
- Thanuwat Khumkainam
- 6 วันที่ผ่านมา
- ยาว 2 นาที
อัปเดตเมื่อ 3 วันที่ผ่านมา

สวัสดีครับเพื่อนๆ หลายคนคงคุ้นเคยกับช่วงต้นปีที่ต้องเตรียมเอกสารสำคัญสำหรับการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาใช่ไหมครับ? หนึ่งในเอกสารสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ "ใบ 50 ทวิ" ซึ่งถือเป็นเหมือนเพื่อนคู่ใจของคนที่มีรายได้ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์เงินเดือนประจำ หรือเพื่อนๆ ที่เป็นฟรีแลนซ์ เพราะเจ้าเอกสารใบนี้แหละครับ ที่เป็นหลักฐานสำคัญในการยืนยันว่าเราได้มีการเสียภาษีหัก ณ ที่จ่ายไปแล้วนั่นเอง แถมยังเป็นตัวช่วยสำคัญเวลาที่เราอาจจะยื่นภาษีแล้วพบว่าเราถูกหักภาษีไปเกิน ก็สามารถใช้ "50 ทวิ" นี่แหละครับ ในการขอคืนภาษีส่วนนั้นได้ด้วย เคยสงสัยกันไหมครับว่า ไอ้เจ้า "50 ทวิ" ที่ว่าเนี่ย มันคืออะไรกันแน่? ทำไมถึงสำคัญกับชีวิตทางการเงินของเราขนาดนี้?
ไขข้อสงสัย: ใบ 50 ทวิ คืออะไรกันนะ?
เอาแบบเป็นทางการเลยนะครับ "ใบ 50 ทวิ" มีชื่อเต็มๆ ว่า "หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 50 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร" ในภาษาอังกฤษ คำว่า "ภาษี ถูกหัก ณ ที่จ่าย" สามารถแปลได้ว่า "Withholding Tax" ฟังดูอาจจะยาวและเป็นทางการไปหน่อย แต่ถ้าให้พูดง่ายๆ ก็คือ มันเป็นเอกสารที่ "ผู้จ่ายเงินได้" เช่น เจ้านายของเราที่บริษัท หรือลูกค้าที่ว่าจ้างงานฟรีแลนซ์ของเรา เป็นคนออกให้ เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่าเขาได้จ่ายเงินให้เราแล้ว และที่สำคัญคือ ได้มีการหักภาษี ณ ที่จ่ายจากเงินที่เราได้รับไปหรือไม่ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเราก็จะเรียกเอกสารนี้กันติดปากว่า "50 ทวิ" นี่แหละครับ
แล้วใครกันล่ะครับ ที่มีหน้าที่ออก "50 ทวิ" ให้กับเรา? สำหรับเพื่อนๆ ที่เป็นพนักงานประจำ ก็คือนายจ้าง หรือบริษัทที่เราทำงานอยู่นั่นเองครับ ส่วนเพื่อนๆ ที่เป็นฟรีแลนซ์ หรือรับจ้างอิสระ ก็คือผู้ว่าจ้าง หรือลูกค้าที่จ่ายเงินค่าบริการให้กับเราครับ
ทีนี้มาถึงคำถามสำคัญที่ว่า ทำไมเราถึงต้องมี "50 ทวิ" และมันสำคัญกับเรายังไง? อย่างแรกเลยนะครับ "50 ทวิ" เป็นเอกสารสำคัญมากๆ ที่ทุกคนที่มีรายได้ต้องมี เพื่อใช้ในการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในแต่ละปี มันเป็นเหมือนหลักฐานชิ้นสำคัญที่ยืนยันว่าเราได้ถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายไปแล้วจริงๆ และที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือ มันเป็นตัวช่วยชั้นดีในการขอคืนภาษี ในกรณีที่เราถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายไปมากกว่าจำนวนภาษีที่เราต้องจ่ายจริงทั้งปี นอกจากนี้ "50 ทวิ" ยังมีประโยชน์ในการวางแผนภาษีของเราด้วยนะครับ โดยเฉพาะเวลาที่เราจะพิจารณาลงทุนในกองทุนต่างๆ เพื่อลดหย่อนภาษี เช่น กองทุน RMF หรือ SSF และที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ ในบางครั้งเรายังสามารถใช้ "50 ทวิ" เป็นเอกสารในการยืนยันรายได้ของเรา เพื่อขอสินเชื่อต่างๆ หรือทำธุรกรรมทางการเงินอื่นๆ ได้อีกด้วยนะครับ
เจาะลึกเรื่อง "การหักภาษี ณ ที่จ่าย" ที่มาของ 50 ทวิ
เมื่อเรารู้จักกับ "ใบ 50 ทวิ" กันไปแล้ว ทีนี้เรามาดูกันถึงที่มาของมันหน่อยครับ นั่นก็คือเรื่องของ "การหักภาษี ณ ที่จ่าย" ซึ่งอาจจะเป็นคำที่เราเคยได้ยินกันบ่อยๆ แต่ยังไม่ค่อยเข้าใจว่ามันคืออะไรกันแน่ เอาแบบง่ายๆ เลยนะครับ "การหักภาษี ณ ที่จ่าย" ก็คือการที่ผู้จ่ายเงินได้ (อย่างเช่น นายจ้าง หรือบริษัท) ทำการหักเงินส่วนหนึ่งจากที่เราได้รับไป เพื่อนำส่งให้กับกรมสรรพากร ซึ่งถือเป็นการจัดเก็บภาษีล่วงหน้าสำหรับเงินได้บางประเภทนั่นเองครับ เหตุผลที่ต้องมีการหักภาษี ณ ที่จ่าย ก็เพื่อช่วยลดภาระให้กับผู้มีเงินได้ ไม่ต้องรอจ่ายภาษีก้อนใหญ่ทีเดียวตอนสิ้นปี แถมยังช่วยให้รัฐบาลสามารถจัดเก็บภาษีได้อย่างสม่ำเสมอ และลดปัญหาการหลีกเลี่ยงภาษีได้อีกด้วยครับ
แล้ว "การหักภาษี ณ ที่จ่าย" มันเกี่ยวข้องอะไรกับ "50 ทวิ" ล่ะ? ก็อย่างที่บอกไปครับ "50 ทวิ" เป็นเหมือนหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าเงินได้ที่เราได้รับมานั้น ได้ถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายไปแล้วจำนวนเท่าไหร่มันเป็นเอกสารสำคัญที่แสดงจำนวนภาษีที่เราได้จ่ายล่วงหน้าไป และผู้จ่ายเงินได้มีหน้าที่ต้องออกเอกสารนี้ให้กับเรา เพื่อที่เราจะนำไปใช้เป็นหลักฐานในการยื่นภาษีประจำปีนั่นเองครับ 4 ลองนึกภาพตามนะครับ เหมือนเวลาที่เราซื้อของแล้วได้ใบเสร็จ "50 ทวิ" ก็เหมือนใบเสร็จที่แสดงว่าเราได้จ่ายภาษีส่วนหนึ่งไปแล้วนั่นเองครับ
ตัวอย่าง ใบ 50 ทวิ ฉบับเข้าใจง่าย

เมื่อเราเข้าใจถึงความหมายและความสำคัญของ "ใบ 50 ทวิ" กันแล้ว ทีนี้เรามาลองดูกันนะครับว่า หน้าตาของเจ้าเอกสารนี้เป็นยังไง และมีข้อมูลอะไรที่สำคัญที่เราต้องสังเกตบ้าง ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้เห็นรูปภาพของ "50 ทวิ" ในตอนนี้ แต่ผมจะอธิบายให้เพื่อนๆ เห็นภาพได้ง่ายที่สุดครับ โดยทั่วไปแล้ว "ใบ 50 ทวิ" จะมีส่วนประกอบหลักๆ ที่เราต้องให้ความสนใจดังนี้ครับ
ข้อมูลของผู้จ่ายเงินได้: ส่วนนี้จะแสดงรายละเอียดของบริษัท หรือบุคคลที่จ่ายเงินให้กับเรา เช่น ชื่อบริษัท ที่อยู่ และที่สำคัญคือ เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้จ่ายเงินได้ครับ
ข้อมูลของผู้รับเงินได้: ก็คือข้อมูลของเรานั่นเองครับ จะมีชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของเรา (ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือเลขบัตรประชาชนของเรานั่นแหละครับ)
ประเภทของเงินได้: ในส่วนนี้จะระบุว่าเงินที่เราได้รับนั้นเป็นเงินได้ประเภทไหน เช่น เงินเดือน ค่าจ้าง ค่าบริการ หรือเงินได้อื่นๆ ซึ่งจะมีรหัสประเภทเงินได้กำกับไว้ด้วย เช่น 40(1) สำหรับเงินเดือน หรือ 40(2) สำหรับค่าจ้าง
จำนวนเงินที่จ่าย: ส่วนนี้จะแสดงจำนวนเงินทั้งหมดที่เราได้รับจากผู้จ่ายเงินได้ตลอดทั้งปี หรือในงวดที่เราได้รับการจ่ายเงินนั้นๆ ครับ
จำนวนภาษีที่หักและนำส่งไว้: นี่คือส่วนที่สำคัญมากๆ ครับ จะแสดงจำนวนเงินภาษีที่ผู้จ่ายเงินได้ได้หักออกจากเงินที่เราได้รับไป และได้นำส่งให้กับกรมสรรพากรไว้แล้ว
วัน เดือน ปี ที่ออกเอกสาร: ส่วนนี้จะระบุวันที่ที่ผู้จ่ายเงินได้ทำการออก "ใบ 50 ทวิ" ให้กับเราครับ
ลายมือชื่อผู้มีอำนาจและตราประทับ (ถ้ามี): ส่วนนี้จะเป็นลายเซ็นของผู้ที่มีอำนาจลงนามในนามของผู้จ่ายเงินได้ และอาจจะมีตราประทับของบริษัทด้วย เพื่อยืนยันความถูกต้องของเอกสาร
นอกจากนี้ โดยทั่วไปแล้ว "ใบ 50 ทวิ" จะถูกจัดทำออกมาเป็น 2 ฉบับครับ ฉบับหนึ่งจะมีข้อความกำกับไว้ว่า "สำหรับผู้ถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย ใช้แนบพร้อมกับการแสดงรายการ" ซึ่งก็คือฉบับที่เราจะต้องเก็บไว้เพื่อใช้แนบในการยื่นภาษีของเรานั่นเองครับ ส่วนอีกฉบับหนึ่งจะมีข้อความว่า "สำหรับผู้ถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย เก็บไว้เป็นหลักฐาน" ซึ่งเราก็เก็บไว้อ้างอิงสำหรับตัวเราเองครับ
ถ้าไม่มี ใบ 50 ทวิ ตอนยื่นภาษี จะเกิดอะไรขึ้น?
แล้วถ้าถึงเวลายื่นภาษี แต่เราไม่มี "ใบ 50 ทวิ" ล่ะ จะเกิดอะไรขึ้น? บอกเลยนะครับว่าอาจจะทำให้เรื่องยุ่งยากขึ้นได้ครับ เพราะถ้าไม่มีเอกสารนี้ เราอาจจะไม่สามารถยื่นภาษีได้อย่างถูกต้อง หรืออาจจะกรอกข้อมูลผิดพลาดได้ครับ ยิ่งถ้าเราถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายไว้เกิน แล้วเราไม่มี "50 ทวิ" เป็นหลักฐาน ก็อาจจะทำให้เราไม่สามารถขอคืนภาษีส่วนนั้นได้ครับ ที่สำคัญที่สุดก็คือ ถ้าเราไม่สามารถแสดงหลักฐานการหักภาษี ณ ที่จ่ายได้ ก็อาจจะทำให้เราถูกกรมสรรพากรเรียกตรวจสอบ และอาจจะโดนปรับย้อนหลังได้ด้วยนะครับ ดังนั้น การมี "50 ทวิ" อยู่กับตัวจึงเป็นเรื่องสำคัญมากๆ ครับ เพื่อความสะดวกและถูกต้องในการยื่นภาษี
แล้วถ้าเราทำ "ใบ 50 ทวิ" หาย จะทำยังไง? ไม่ต้องตกใจไปนะครับ เราสามารถติดต่อขอสำเนา หรือที่เรียกว่า "ใบแทน" จากผู้จ่ายเงินได้ครับ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทที่เราทำงาน หรือผู้ว่าจ้างงานฟรีแลนซ์ของเรา โดย "ใบแทน" ที่เราขอมานั้น จะต้องมีข้อความว่า "ใบแทน" กำกับอยู่ด้วย และผู้จ่ายเงินจะต้องลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้องด้วยครับ สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้ก็คือ เราไม่สามารถขอ "ใบ 50 ทวิ" หรือ "ใบแทน" จากกรมสรรพากรได้โดยตรงนะครับ เราต้องติดต่อกับผู้ที่จ่ายเงินให้กับเราเท่านั้น
แม้ว่าการยื่นภาษีออนไลน์ในปัจจุบันอาจจะไม่จำเป็นต้องแนบ "ใบ 50 ทวิ" ในขั้นตอนแรก แต่การมีเอกสารนี้ไว้กับตัวก็ยังคงมีความสำคัญมากๆ นะครับ เพื่อความถูกต้องในการกรอกข้อมูล และเพื่อใช้เป็นหลักฐานในกรณีที่กรมสรรพากรอาจจะมีการตรวจสอบข้อมูลของเราในภายหลังครับ
เห็นไหมล่ะครับว่า "ใบ 50 ทวิ" เป็นเอกสารสำคัญมากสำหรับทุกคนที่มีรายได้และถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย มันเป็นทั้งหลักฐานการเสียภาษี เป็นตัวช่วยในการขอคืนภาษี การทำความเข้าใจว่า "50 ทวิ" คืออะไร มีข้อมูลอะไรบ้าง และเราจะใช้ประโยชน์จากมันได้อย่างไร จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ สำหรับการจัดการเรื่องภาษีของเราครับ หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เพื่อนๆ เข้าใจเกี่ยวกับ "50 ทวิ" มากขึ้น และรู้สึกว่าเรื่องภาษีไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดนะครับ อย่าลืมเก็บรักษา "ใบ 50 ทวิ" ของเราไว้ให้ดีนะครับ เพื่อความสะดวกและถูกต้องในการยื่นภาษีในทุกๆ ปีครับ
ดาวโหลดใบ 50 ทวิ จากเวปไซต์ของกรมสรรพากรได้ที่นี่ ดาวโหลด
ติดต่อเราได้ที่ iACC Professional
เพื่อขอคำปรึกษาและรับบริการด้านภาษีที่ตอบโจทย์ธุรกิจของคุณ โทร: 086-345-0265 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา www.iaccprofessional.com เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม
FAQ
50 ทวิ" คืออะไร? มีไว้ทำไม?
อย่างที่เราคุยกันไปแล้วนะครับ 50 ทวิ คือหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ที่เป็นหลักฐานว่าเราได้ถูกหักภาษีไปแล้ว และต้องเก็บไว้ใช้ยื่นภาษีประจำปีครับ
ขอ 50 ทวิ ได้ที่ไหน?
ต้องได้ 50 ทวิ เมื่อไหร่?
ถ้าทำ 50 ทวิ หายต้องทำยังไง?
ไม่มี 50 ทวิ ยื่นภาษีได้ไหม?
อาชีพอิสระต้องใช้ 50 ทวิ ยื่นภาษีไหม?
ถ้าเงินได้ไม่ถึงเกณฑ์เสียภาษี ต้องใช้ 50 ทวิ ไหม?
ขอ 50 ทวิ ออนไลน์ได้ไหม?
บริษัทไม่ออก 50 ทวิ ให้ทำอย่างไร?
ใช้ 50 ทวิ ขอสินเชื่อได้ไหม?
ภ.ง.ด. 90 กับ ภ.ง.ด. 91 ต่างกันยังไง? เกี่ยวอะไรกับ 50 ทวิ?